1. ผู้ใดประสงค์จะนำไม้สักที่เคยอยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเคยอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้มาแล้วกว่า 5 ปี เคลื่อนย้ายออกนอกเขตจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งสิ่้งปลูกสร้างหรือเป็นที่ประกอบเครื่องใช้นั้น ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
1.1 สำหรับท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้
1.2 สำหรับท้องที่จังหวัดอื่นให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แห่งอำเภอหรือกิ่งอำเภอท้องที่ซึ่งเป็นที่ตั้งปลูกสร้างหรือเป็นที่ประกอบเครื่องใช้นั้น
2. ไม้สักที่จะอนุญาตให้เคลื่อนย้ายออกนอกเขตจังหวัดได้ตามระเบียบนี้ จะต้องมีลักษณะและสถานภาพดังต่อไปนี้
2.1 ต้องเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรืออยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้มาแล้วกว่า 5 ปี ซึ่งในขณะที่ยื่นขอต้องยังไม่ได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ก่อนได้รับอนุญาตตามระเบียบ
2.2 ต้องมิใช่ไม้ที่อยู่ในสภาพพรางว่าเป็นสิ่งที่ปลูกสร้างหรืออยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างอันไม่ชอบด้วยลักษณะสิ่งปลูกสร้างทั่ว ๆ ไปหรือที่ผิดปกติวิสัย หรืออยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ที่ไม่ชอบด้วยลักษณะของเครื่องใช้ที่เป็นปกติในท้องที่นั้น หรือผิดปกติวิสัย
2.3 ต้องเป็นไม้ที่พ้นสภาพการเป็นไม้แปรรูป ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4
2.4 ในกรณีเป็นสิ่งปลูกสร้างจะต้องปลูกสร้างในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครองหรือสิทธิใช้ประโยชน์ที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย
3. หลักฐานที่ใช้ประกอบคำขอ
3.1 สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอรื้อถอน
3.2 แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งสิ่งปลูกสร้างที่ขออนุญาตรื้อถอน
3.3 หนังสือรับรองว่าได้ปลูกในท้องที่นั้นมานานแล้วกว่า 5 ปี จากสภาตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งท้องที่ แล้วแต่กรณี
3.4 หลักฐานการได้มาของไม้นั้น (ถ้ามี)
3.5 รูปถ่ายสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ที่ขอรื้อถอนทุกด้าน
3.6 หลักฐานแสดงการมีสิทธิ์ใช้ที่ดินจะนำไม้สักไปใช้ประโยชน์ พร้อมแผนที่สังเขปแสดงที่ถูกต้องของที่ดินนั้น
3.7 อื่น ๆ
4. เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับคำขอและเห็นว่าถูกต้อง จะดำเนินการ ดังนี้
4.1 สำหรับท้องที่กรุงเทพมหานครจะเสนอคำขอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการในทำนองเดียวกัน
4.2 สำหรับท้องที่จังหวัดอื่นจะเสนอคำขอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการในทำนองเดียวกัน
5. เมื่อคณะกรรมการได้ตรวจสอบหลักฐานเอกสาร และลักษณะสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ที่ขอรื้อถอนแล้ว มีความเห็นสมควรให้ผู้ขอทำการเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ได้ อธิบดีกรมป่าไม้หรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณี จึงจะสั่งให้ทำการรื้อถอน แล้วแจ้งให้ผู้ขอทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้นั้นได้
6. เมื่อคณะกรรมการได้รับแจ้งจากผู้ขอว่าได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้แล้วจะทำการตรวจไม้ที่รื้อถอนนั้น แล้วจัดทำบัญชีรายการแสดงชนิด จำนวน ปริมาตร พร้อมประทับตราประจำตัวไว้ที่ไม้ แล้วจะดำเนินการเสนออธิบดีกรมป่าไม้หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อออกใบอนุญาตให้เคลื่อนย้ายต่อไป
7. เมื่อผู้รับอนุญาตได้นำไปถึงสถานที่ที่กำหนดในใบอนุญาต ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อำเภอหรือกิ่งอำเภอ แล้วแต่กรณี สำหรับในท้องที่กรุงเทพมหานครให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้
8. สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมตามระเบียบมิได้กำหนดไว้แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น