ไม้สักทองเป็นไม้ที่มีชื่อเสียงรู้จักกันแพร่หลายทั่วโลก อันเนื่องมาจากเนี้อไม้มีคุณภาพสูง เป็นไม้ที่มีสีสันและลวดลายธรรมชาติที่งดงาม ไม้สักชนิดหนึ่งสี่ของเนี้อไม้จะเป็นสีน้ำตาลทอง และมีลวดลายสีดำ เนื้อไม้ของไม้สักค่อนข้างที่จะละเอียด มีเสี้ยนตรง น้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการเลื่อย ไส และตบแต่ง แต่ก็มีความแข็งแรงพอสมควร

ไม้สักสามารถที่จะนำมาใช้งานได้แทบทุกอย่างเท่าที่ไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ จะทำได้ เช่น นำมาใช้ในงานก่อสร้าง และโครงสร้างของที่อยุ่อาศัย ใช้ทำดาดฟ้าเรือ ใช้ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ และใช้ในการแกะสลักได้อย่างยอดเยี่อม ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม้สักยังมีความต้านต่อปลวก เชื้อรา เห็ดต่าง ๆ ทนต่อกรด ไม่ทำให้เหล็กเป็ฯสนิม ตลอดทั้งทนทานต่อลมฟ้าอากาศที่จะทำลายเนื้อไม้ ดังจะเห็นได้จากสภาพของโบสถ์ วิหารที่มีอายุหลายร้อยปีที่สร้างขึ้นด้วยไม้สักในจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือของไทย

ไม้สักในประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลกและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมาก ในสมัยก่อนไม้สักค่อนข้างจะหาง่ายและราคาไม่แพง ประชาชนสามารถสร้างบ้านทั้งหลังโดยใช้ไม้สักล้วน ๆ ได้ แต่ในปัจจุบันไม้สักในป่าธรรมชาติกำลังจะหมดไป เพราะความต้องการใช้สูง รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลุกไม้สักเพื่อใช้เองหรือเพื่อการค้าได้ และเนื่องจากความต้องการใช้ไม้มีมาก และนับวันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องราคาและการตลาดสำหรับไม้ชนิดนี้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นไม้ขนาดเล็กที่ได้จากการตัดสางขยายระยะ หรือไม้ซุง เมื่อมีการตัดมาใช้ประโยชน์ครั้งสุดท้ายก็ตาม

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

งายวิจัย:ผลของการตัดให้แตกหน่อต่อผลผลิตยอดและความสามารถในการแตกรากของยอดในกล้าไม้สัก

โดย นางสาวสุนันทา วิสิทธิพานิช นายไพรัช ปิยะพันธุ์ และนายวิเชียร สุมันตกุล ลงพิมพ์เผยแพร่ในรายงานการประชุมวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 38 สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน้า 9

การศึกษาเรื่องนี้ได้ดำเนินการที่ศูนย์บำรุงพันธุ์ไม้สัก อำเภองาว จังหวัดลำปาง โดยศึกษาถึงผลการควบคุมความสูงของต้นตอ (ที่ 3 ระดับ คือ 5, 10, และ 20 เซนติเมตร) และจำนวนข้อ ( 2 ข้อ และ 3 ข้อ) ที่จะเหลือไว้เพื่อการผลิตหน่อ รวมทั้งผลของการลิตใบต่อผลผลิตของหน่อที่ได้ของหน่อที่ได้ของไม้สักที่ย้ายปลูกอายุ 1 ปี

ผลการทดลองพบว่า การตัดให้เหลือตอสูง 10 และ 20 เซนติเมตร จะทำให้มีผลผลิตของหน่อ (เฉลี่ย 2.62-2.92 หน่อ/ต้น) มากกว่าการตัดให้แตกหน่อที่มีตอสูงเพียง 5 เซนติเมตร (เฉลี่ย 2.10 หน่อ/ต้น) โดยการเหลือจำนวนข้อไว้ 3 ข้อ (เฉลี่ย 8.33 หน่อ/ต้น) ให้ผลผลิตดีกว่าการเหลือข้อไว้ 2 ข้อ (เฉลี่ย 6.17 หน่อ/ต้น)

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำการตัดให้ตอสูงเท่าใด หรือเหลือจำนวนข้อไว้มากน้อยเพียงใด ก็จะไม่มีผลต่อเปอร์เซนต์การรอดตายของกล้าไม้ ความโต และความสูงของหน่อเฉลี่ย การตัดหลาย ๆ ครั้งจะทำให้การเติบโตของหน่อใหม่ลดลง และทำให้การแตกรากของยอดที่นำมาตัดชำดีขึ้น ส่วนการลิดใบออกไม่มีผลต่อจำนวนหน่อที่แตกใหม่ แต่กลับทำให้การเติบโตของหน่อใหม่ลดลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที่มาของข้อมูล

หนังสือคู่มือการเกษตร
การปลูกและดูแลรักษาสวนป่า ไม้สักทอง ไม้เศรษฐกิจของชาติ
เรียบเรียงโดย ปรัชญา รัศมีธรรมวงศ์

บริการถ่ายภาพด้วยมืออาชีพ

...คลิกที่รูป....บริการถ่่ายภาพสุดประทับใจ¨ prewedding รับประริญญา พิธีการต่่าง ๆ แฟชั่นอีกมากมาย ติดต่อ : 0899274733 msn:tuchkay@hotmail.com